พืชและดอกไม้ในโลกแฟนตาซี

พืชและดอกไม้ในโลกแฟนตาซี

พืชบันทึกเสียงกระซิบจากผืนโลก เก็บความทรงจำของแผ่นดิน และมีพลังที่แม้แต่มนุษย์เองก็สัมผัสได้…

นับแต่อดีตกาล พืชและดอกไม้คือสิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดขึ้นมายุคแรก ๆ และอยู่เคียงวิถีชีวิตของมนุษย์มาตั้งแต่จำความได้ พืชถูกนำมาใช้ประโยชน์แทบทุกด้าน ตั้งแต่ที่พักอาศัย อาหาร ยารักษาโรค ยาพิษ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องมือล่าสัตว์ และเวทมนตร์

เพราะพืชไม่ได้เพียง “มีอยู่” แต่ “มีความหมาย” และ “มีพลัง” ที่ผู้รู้เวทสามารถหยิบยืมมาใช้ได้

พืช เวทมนตร์ที่เติบโตจากดิน

“พืช” คือสิ่งมีชีวิตเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถรวมพลังทั้งสี่ของจักรวาลไว้ในตัว ทั้งดิน น้ำ ลม และไฟ เพราะพืชดูดซับธาตุจากดิน ดูดน้ำจากราก สังเคราะห์แสงจากเปลวไฟแห่งดวงอาทิตย์ และปลดปล่อยลมหายใจกลับคืนสู่โลก

เราจึงได้เห็นพืชเข้ามาเกี่ยวข้องบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะในทางทฤษฎี ตามตำนาน หรือในสื่อบันเทิงต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ เพราะนักเวทเชื่อว่า พฤกษาเป็นสื่อกลางได้ ว่านยา สมุนไพร หรือดอกไม้บางชนิดไม่ใช่เพียงยา แต่คือสิ่งที่มีจิตวิญญาณ ซึ่งสามารถช่วยให้มนุษย์เชื่อมโยงกับพลังงานที่ละเอียดอ่อนกว่า

พืชและดอกไม้ กับคติชนและโลกแฟนตาซี

Harebell

แฮร์เบลล์ Harebell (Campanula rotundifolia)

ในตำนานสกอตแลนด์เชื่อว่า แฮร์เบลล์คือ “ดอกไม้ของพวกซิลฟ์ (Sylph)” หรือวิญญาณลม บางตำนานกล่าวว่าแม่มดใช้มันในพิธีแปลงร่างเป็นกระต่ายป่าเพื่อหนีการไล่ล่า หรือใช้เดินทางในโลกแห่งความฝัน

แมนเดรก Mandrake (Mandragora officinarum)

แมนเดรกเป็นหนึ่งในพืชที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในยุโรปยุคกลาง เชื่อว่ารากของมันมีรูปร่างคล้ายมนุษย์ และเมื่อถูกดึงขึ้นจากดินจะกรีดร้องเสียงดังจนทำให้คนที่ได้ยินเสียสติหรือตายได้ นักเล่นแร่แปรธาตุมักใช้หมาเป็นตัวช่วยถอน เพราะเสียงกรีดร้องของมันอันตรายถึงชีวิต

วูล์ฟเบน Wolfsbane (Aconitum napellus)

วูล์ฟเบน หรืออีกชื่อหนึ่งว่า มังส์ฮูด (Monkshood) มีพิษร้ายแรงถึงชีวิต ในตำนานยุโรปเชื่อว่าเป็นพืชที่เชื่อมโยงกับมนุษย์หมาป่า ใช้ควบคุมคำสาป หรือยับยั้งการเปลี่ยนร่าง บางตำนานเล่าว่าหากผู้ใดถูกกัดโดยมนุษย์หมาป่าและดื่มน้ำที่ต้มจากวูล์ฟเบนภายในคืนพระจันทร์เต็มดวง จะช่วยไม่ให้กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า

กาบหอยแครง Venus Flytrap (Dionaea muscipula)

กาบหอยแครงไม่ได้เป็นเพียงพืชกินแมลงเท่านั้นนะคะ แต่ในตำนานยุควิกตอเรียเชื่อกันว่า มันคือ “ดวงตาแห่งป่า” ที่คอยเฝ้าระวังวิญญาณผู้บุกรุก ป่าเวทหลายแห่งเชื่อว่าพืชชนิดนี้สามารถดูดซับพลังชีวิตของผู้ที่ไม่มีสิทธิ์เข้ามาได้

เครือเขาหลง (Khruea Khao Long)

ในความเชื่อไทย เครือเขาหลงหรือถัลย์หลง เป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ที่ถือว่ามีพลังแห่ง มายา ผู้ที่เดินข้ามเถาวัลย์จะหลงป่าทันที ไม่ว่าจะรู้เส้นทางดีเพียงใดก็ตาม บางตำนานบอกว่า เถานี้เป็นสิ่งที่วิญญาณผู้พิทักษ์สร้างขึ้นเพื่อป้องกันสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จากผู้ที่ไม่คู่ควร

ฮิกังบานะ

พลับพลึงแมงมุม Spider Lily (Lycoris radiata)

ในตำนานญี่ปุ่น ดอกพลับพลึงแมงมุมหรือฮิกังบานะ (Higanbana, 彼岸花) คือดอกไม้ที่เบ่งบานริมทางแห่งยมโลก เป็นดอกไม้ที่นำพาวิญญาณให้เดินข้ามแม่น้ำสามสายสู่ปรโลก ชาวจีนเรียกมันว่า “ดอกไม้แห่งการพลัดพราก” เพราะมันบานในช่วงเวลาที่ชีวิตและความตายห่างกันเพียงเส้นด้าย

ลั่นทม, ลีลาวดี (Plumeria spp.)

แม้ชื่อ “ลั่นทม” จะฟังเหมือน “ระทม” แต่ดอกไม้ชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของ “ความรักที่ข้ามภพข้ามชาติ” เชื่อกันว่าดอกลั่นทมจะบานในวันที่ “วิญญาณที่เคยรักกัน” กลับมาพบกันอีกครั้ง และกลิ่นหอมของมันคือเสียงเพรียกจากความทรงจำที่ถูกลืมเลือน

กัลปพฤกษ์ (Cassia bakeriana)

ในตำนานฮินดู กัลปพฤกษ์คือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เทพเจ้าสร้างขึ้นในสรวงสวรรค์ มันสามารถมอบสิ่งที่ผู้ขอปรารถนาได้ทุกอย่าง

ปาริชาต (Parijat – Nyctanthes arbor-tristis)

ตำนานอินเดียเล่าว่า ปาริชาตเป็นดอกไม้ที่เทพเจ้ามอบให้แก่นางฟ้าผู้สูญเสียความทรงจำจากอดีตชาติ และเมื่อได้กลิ่นของมัน เธอสามารถระลึกถึงความรักที่ลืมไปแล้วได้อีกครั้ง อีกแง่หนึ่ง ปาริชาตยังถือเป็นดอกไม้แห่งการตื่นรู้อีกด้วย

เนระพูสีไทย (Tacca chantrieri)

ตำนานไทยโบราณกล่าวว่า หากใครได้ยินเสียง “ร้อง” ของเนระพูสี นั่นหมายถึง “เงาของโชคร้าย” กำลังจะมาเยือน

พืชกับโครงสร้างของโลกแฟนตาซี

ต้นไม้มีชีวิต

หากอยากสร้างโลกแฟนตาซีที่มีชีวิตแบะเข้าถึงได้จริง หนึ่งในทริคที่นักเขียนมักใช้กันก็คือ ใช้พืชเป็นองค์ประกอบของโลกเวทมนตร์

ลองจินตนาการถึงเรื่องราวของคุณ หากไม่มีพืชอยู่เลย… ป่าจะกลายเป็นเพียงฉากหลังอันเงียบงัน ไม่ใช่สถานที่ลึกลับที่รอคอยให้คุณเข้าไปค้นพบปมปริศนาของเรื่องราวนี้อีกต่อไป ดอกไม้ก็คงเป็นเพียงความสวยงาม ไม่ใช่ “สัญลักษณ์” ที่โชคชะตาใช้สื่อสารกับตัวละคร และเวทมนตร์ก็จะขาด “โครงสร้าง” ที่รองรับพลังงานอันยิ่งใหญ่

ดังนั้น แทนที่จะใช้พืชเป็นแค่ของตกแต่งฉาก เราสามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นองค์ประกอบหลักของโลกแฟนตาซีได้ เช่น ป่าที่มีอารมณ์ของตัวเอง ดอกไม้ที่บานตามโชคชะตา เมล็ดพืชที่ให้กำเนิดเวทมนตร์ชนิดใหม่ หรือรากไม้แห่งความทรงจำ

เพียงเท่านี้เรื่องราวที่คุณอยากลองเขียนก็จะลึกขึ้น น่าจดจำขึ้น และเปี่ยมด้วยเวทมนตร์ในแบบที่ไม่มีอะไรมาแทนได้แล้วค่ะ

*

พืชและดอกไม้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งมีชีวิต แต่คือภาษาที่พูดกับเราในแบบที่เราอาจลืมฟัง พืชเล่าเรื่องของความรัก ความตาย ความทรงจำ และพลังที่ไม่มีวันสิ้นสุด

หากวันหนึ่งคุณเดินผ่านร้านดอกไม้ หรือได้นั่งอยู่ในสวนสวย ๆ ลองสังเกตพืชรอบ ๆ ตัวดูนะคะ บางที… มันอาจกำลังสื่อสารบางอย่างมาถึงคุณอยู่ก็ได้

ผู้เขียน

  • malyn

    แม่มดฝึกหัดตัวน้อย ผู้หลงใหลในเรื่องลึกลับสุดหัวใจ

    View all posts